Last updated: 10 พ.ค. 2567 | 122 จำนวนผู้เข้าชม |
“นวดน้ำมัน” คือหนึ่งในศาสตร์การนวดผ่อนคลายที่ชาวมนุษย์เงินเดือนหลายคนต้องเคยได้ยินหรือได้เห็นกันมาบ้าง มีความต่างจากนวดแผนไทยอย่างไร ประโยชน์ของนวดน้ำมันมีอะไรบ้าง
นวดน้ำมัน คืออะไร?
นวดน้ำมัน (Oil massage) คือหนึ่งในรูปแบบของการนวดที่มีให้เลือกมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น นวดแผนโบราณ นวดเพื่อสุขภาพ นวดคลายเครียด
ซึ่งนวดน้ำมันจัดอยู่ในกลุ่มของการนวดคลายเครียด แม้ว่า นวดน้ำมัน จะเป็นการใช้มือนวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายคล้ายกับการนวดแผนไทย แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ การนวดน้ำมันจะไม่ใช้แรงกดที่มากเท่ากับการนวดแผนไทย ที่เป็นการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อการรักษา เช่น ปวดคอ ปวดหลัง ปวดบ่า ปวดสะโพก ปวดขา เป็นต้น
ขณะที่นวดน้ำมันจะเป็นการนวดเพื่อความผ่อนคลายความตึงเครียด โดยใช้น้ำมันหอมระเหยทาทั่วบริเวณลำตัวเพื่อให้เกิดความลื่นมือและมอบสัมผัสที่นุ่มนวล เบาสบายกว่าการนวดแผนไทย รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายอารมณ์ ซึ่งทำให้ผู้ถูกนวดรู้สึกสดชื่นได้ด้วย
ข้อดีของการนวดน้ำมัน
การนวดน้ำมันนอกจากจะช่วยผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต่างๆ ได้ด้วย เช่น
-มนุษย์เงินเดือน คนทำงานออฟฟิศหรือทำงานฟรีแลนซ์ที่ต้องนั่งทำงานนานๆ มักมีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดตึงกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หลัง
-ผู้ที่มีอาการที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวผิดท่า
-ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง กล้ามเนื้อแข็งเกร็งมาก ซึ่งมีอาการสะสมมาเป็นระยะเวลานาน เช่น ปวดศีรษะ (ไมเกรน) รองช้ำ มือชา เท้าชา นิ้วชา นิ้วล็อก เป็นต้น
สรรพคุณทางการรักษาของการนวดน้ำมัน ได้แก่
-กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ลดความตึงเครียด ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า
-กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้มีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้เลือดนำออกซิเจน และสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
-ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบน้ำเหลือง
-ช่วยให้กล้ามเนื้อไม่แข็งตึง คลายพังผืดใต้ผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย เกิดการฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ และข้อต่อต่างๆ ให้ทำงานได้ดีขึ้น
-ช่วยบรรเทาอาการปวด ตึง เมื่อยล้า หลังจากการทำงาน และอาการบาดเจ็บหลังจากออกกำลังกาย
ข้อควรระวังในการนวดน้ำมัน
-ผู้มีผิวแพ้ง่าย เพราะน้ำมันหอมระเหยอาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ ทำให้เป็นตุ่มแดงหรือเกิดผื่นคันได้ ถ้าอยากนวดน้ำมันควรเลือกน้ำมันที่ไร้สี ไร้กลิ่น ไม่ใช่น้ำมันหอมระเหย เพื่อป้องกันอาการแพ้ แต่ยังมีสรรพคุณไม่ต่างกัน
-ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น มีภาวะเลือดออกผิดปกติ การติดเชื้อ โรคผิวหนัง ลิ่มเลือดอุดตัน มีบาดแผล แผลไฟไหม้ กระดูกหัก โรคกระดูกพรุนรุนแรง เกล็ดเลือดต่ำ
-ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการนวดน้ำมัน เนื่องจาก น้ำมันหอมระเหยบางชนิด เช่น น้ำมันหอมระเหยจากโหระพา พาร์สลีย์ ต้นเบิร์ช (Birch) หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ และการนวดยังอาจกดทับหรือกระทบกระเทือนทารกในครรภ์ได้
อ้างอิงข้อมูล: สมาคมแพทย์อายุรเวทแผนไทยประยุกต์ แห่งประเทศไทย