การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (HBOT) คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?

Last updated: 16 ก.ย. 2567  |  39 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (HBOT) คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?

การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง หรือ HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy) เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคและอาการหลายชนิด จุดเด่นของ HBOT คือการนำผู้ป่วยเข้าไปในห้องที่มีความดันบรรยากาศสูงกว่าปกติ (Hyperbaric Chamber) เพื่อให้ร่างกายสามารถหายใจรับออกซิเจนบริสุทธิ์ได้มากขึ้น การเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดนี้ช่วยเสริมการทำงานของเนื้อเยื่อในร่างกายและเพิ่มความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อ ทำให้ร่างกายฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้น

กลไกการทำงานของ HBOT

ในระหว่างการบำบัด HBOT ผู้ป่วยจะหายใจรับออกซิเจนที่มีความเข้มข้น 100% ภายใต้ความดันที่สูงกว่าปกติ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดได้มากกว่าการหายใจปกติหลายเท่า ปริมาณออกซิเจนที่สูงขึ้นนี้จะถูกลำเลียงไปยังเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย ช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย ช่วยลดอาการบวม และกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ นอกจากนี้ HBOT ยังมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่ไม่สามารถทนต่อภาวะออกซิเจนสูงได้

การนำ HBOT ไปใช้รักษา HBOT ถูกนำมาใช้รักษาโรคและอาการต่าง ๆ ดังนี้:


  • แผลเรื้อรังจากเบาหวาน: ออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาแผล และกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
  • ภาวะฟองอากาศในกระแสเลือด (Decompression Sickness): ซึ่งมักเกิดกับนักดำน้ำ HBOT ช่วยลดขนาดของฟองอากาศในกระแสเลือดและป้องกันอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  • การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจากการฉายรังสี: ผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสีในการรักษามะเร็ง อาจเกิดอาการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อ HBOT ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อเหล่านั้น
  • ภาวะขาดออกซิเจน: เช่น อาการบาดเจ็บที่สมอง ออกซิเจนบริสุทธิ์สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองและเนื้อเยื่อโดยรอบ

นอกจากการใช้รักษาอาการข้างต้นแล้ว ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ HBOT ในการรักษาภาวะอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และบาดเจ็บที่สมองจากการกระแทก แม้การรักษาเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย แต่ผลการศึกษาในเบื้องต้นให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของ HBOT

แม้ว่า HBOT จะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

  • อาการปวดหู: เนื่องจากความดันในห้องรักษาเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดอาการปวดหรืออุดตันในหูชั้นกลาง หากความดันไม่ได้รับการปรับอย่างเหมาะสม
  • ภาวะปอดบาดเจ็บจากแรงดัน: การเปลี่ยนแปลงของความดันอาจทำให้ปอดเกิดอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคปอดอยู่แล้ว เช่น ถุงลมโป่งพอง
  • พิษจากออกซิเจน: การรับออกซิเจนในปริมาณสูงเกินไปเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดภาวะพิษจากออกซิเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบประสาทและทำให้เกิดอาการชักได้
  • สายตาพร่ามัวชั่วคราว: การรับออกซิเจนแรงดันสูงอาจทำให้เกิดอาการสายตาสั้นหรือพร่ามัวชั่วคราว แต่ส่วนใหญ่จะกลับสู่สภาพปกติเมื่อการรักษาสิ้นสุดลง
  • อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลีย: บางครั้งอาจเกิดภาวะคลื่นไส้หรืออ่อนเพลียหลังการรักษา

สรุป

การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง (HBOT) เป็นทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและรักษาอาการหลากหลายชนิด แม้จะมีประโยชน์ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การบำบัดนี้จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด หากใช้อย่างถูกต้อง HBOT จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้