สิ่งที่ควรทำหลังน้ำลดเเละวิธีล้างบ้านขจัดเชื้อราเพื่อสุขอนามัยดี

Last updated: 24 ก.ย. 2567  |  17 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สิ่งที่ควรทำหลังน้ำลดเเละวิธีล้างบ้านขจัดเชื้อราเพื่อสุขอนามัยดี

     จากสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ ส่งผลให้ในหลายจังหวัดเกิดน้ำท่วมใหญ่ ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อน้ำผ่านไป สภาพบ้านเรือน ก็เต็มไปด้วยความเสียหาย เพราะในช่วงน้ำท่วมจะพัดพาสิ่งสกปรกมาจากทุกสารทิศ ทั้งโคลนตม ขยะ วัสดุ สิ่งของต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการหมักหมม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีจึงต้องมีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและที่พักอาศัยตามหลักสุขาภิบาล  เพราะหากปล่อยไว้นาน จะกลายเป็นแหล่งสะสมและแพร่กระจายของเชื้อโรค

     โดยเฉพาะเชื้อราที่พบได้หลังน้ำลด ตามบริเวณพื้น ฝาผนัง วอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ที่นอน หมอน พรม รวมถึงตู้แช่อาหาร ตู้เย็น จำเป็นต้องได้รับ การรื้อและล้างทำความสะอาดอย่างเร่งด่วน

สิ่งที่ควรทำหลังน้ำลด

  1. ตรวจสอบความปลอดภัย
  • ตรวจสอบบ้านและอาคารเพื่อดูว่ามีโครงสร้างที่เสียหายหรือไม่ เช่น ผนัง พื้น หรือเสา หากมีความเสียหายให้หลีกเลี่ยงการเข้าใช้อาคารนั้น
  • ระวังอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ตรวจสอบสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อนเปิดใช้งาน ควรตัดกระแสไฟฟ้าก่อนที่จะเข้าสำรวจพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม   

  2. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค

  • ทิ้งน้ำที่ขังอยู่ในบ้านและทำความสะอาดบริเวณที่น้ำท่วมด้วยน้ำสะอาดผสมสารฆ่าเชื้อโรค
  • ซักผ้าหรือสิ่งของที่เปียกน้ำเพื่อป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคที่มากับน้ำ
  • เครื่องใช้หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เปียกน้ำมาก ควรพิจารณาทิ้งหากไม่สามารถทำความสะอาดให้ปลอดเชื้อได้

  3. จัดการน้ำและสิ่งปฏิกูล

  • ระวังการดื่มน้ำจากแหล่งน้ำที่อาจปนเปื้อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำที่ใช้สำหรับดื่มและทำอาหารสะอาด หรือใช้วิธีการต้มและกรองน้ำ
  • ตรวจสอบระบบท่อน้ำเสีย และหากมีความเสียหายควรรีบซ่อมแซมเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
  4. จัดการสุขภาพ
  •  ดูแลตัวเองและคนรอบข้างเพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำท่วม เช่น น้ำกัดเท้า ท้องร่วง หรือโรคที่มากับยุง ควรใส่รองเท้าป้องกัน และหลีกเลี่ยงการเดินในน้ำท่วมขัง
  • ควรไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ เจ็บป่วย หรือบาดเจ็บที่ไม่หายขาด


วิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด

1. เตรียมความพร้อมก่อนล้างบ้าน

  • ตัดไฟฟ้า: ก่อนทำความสะอาด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัดกระแสไฟฟ้าแล้วเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว
  • ใส่อุปกรณ์ป้องกัน: สวมถุงมือยาง รองเท้าบูทกันน้ำ หน้ากากอนามัย หรือแว่นตาป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรค
  • ระบายอากาศ: เปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้บ้านมีการระบายอากาศ ลดความอับชื้นและกลิ่นเหม็น

2. กำจัดน้ำและเศษซาก

  • ตักน้ำออก: หากมีน้ำขังในบ้าน ใช้ถังตักน้ำออกก่อน หรือใช้เครื่องดูดน้ำเพื่อเร่งการระบายน้ำ
  • เก็บกวาดเศษขยะ: เก็บเศษซาก วัสดุ หรือสิ่งของที่ลอยน้ำออกจากพื้นที่ เช่น เศษไม้ ใบไม้ ขยะเปียก
  • นำเฟอร์นิเจอร์ออกไปตาก: เฟอร์นิเจอร์ที่เปียกน้ำ ควรย้ายไปตากแดดเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

3. ล้างสิ่งสกปรก

  • ขัดพื้นและผนัง: ใช้แปรงขัดพื้นและผนังที่เปียกน้ำ ขัดคราบสกปรกหรือโคลนออก ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับน้ำในการล้าง
  • ล้างด้วยน้ำสะอาด: หลังจากขัดคราบสกปรกแล้ว ล้างด้วยน้ำสะอาดเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งสกปรกถูกล้างออกหมด
  • ดูดน้ำออกอีกครั้ง: หากมีน้ำเหลือขังจากการล้าง ควรใช้เครื่องดูดน้ำช่วยระบายน้ำออก

4. ฆ่าเชื้อและทำให้แห้ง

  • ใช้สารฆ่าเชื้อโรค: ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือสารฟอกขาว) กับน้ำเพื่อทำความสะอาดพื้นและผนัง ช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดการสะสมของเชื้อรา
  • เปิดพัดลมและเครื่องเป่าลม: ใช้พัดลมเป่าลมเพื่อช่วยให้พื้นและผนังแห้งเร็วขึ้น ลดความชื้นในบ้าน
  • ซักผ้าและผ้าปูที่นอน: เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ผ้าม่านที่เปียกน้ำ ควรนำมาซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและตากแดดจนแห้งสนิท

5. จัดการกับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

  • ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์: เฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรล้างและเช็ดให้แห้งทันทีเพื่อป้องกันการบวม เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าอาจต้องซักหรือทิ้งหากไม่สามารถซักให้สะอาดได้
  • ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า: เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปียกน้ำควรตรวจสอบโดยช่างไฟฟ้าก่อนนำกลับมาใช้ หากมีความเสียหายให้พิจารณาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่

6. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

  • ใช้น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา: วางน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาในจานเล็ก ๆ ไว้ในห้องเพื่อดูดซับกลิ่นอับ
  • ใช้เครื่องฟอกอากาศ: เครื่องฟอกอากาศหรือพัดลมจะช่วยลดกลิ่นและทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น

7. ตรวจสอบความชื้นและป้องกันเชื้อรา

  • ตรวจสอบเชื้อรา: ตรวจสอบพื้นที่ที่อาจมีเชื้อรา หากพบควรล้างและเช็ดให้แห้งด้วยสารฆ่าเชื้อรา
  • ใช้เครื่องลดความชื้น: การใช้เครื่องลดความชื้นจะช่วยลดปริมาณความชื้นในอากาศและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราในอนาคต

เพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้าย โดยผู้ทำความสะอาดต้องหยุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์ ทุก 1 – 2 ชั่วโมง อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดหลังจากการล้างบ้านและกำจัดเชื้อรา เพื่อความปลอดภัย  และสุขอนามัยดี ที่สำคัญ ก่อนการทำความสะอาดและกำจัดเชื้อราในบ้าน ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย สวมหน้ากาก ถุงมือยาง และรองเท้าบูททุกครั้ง

เเหล่งข้อมูล: 8 สิ่งที่ควรทำหลังน้ำลด และวิธีล้างบ้านขจัดเชื้อราเพื่อสุขอนามัยดี โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) https://www.thaihealth.or.th/8-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%a5%e0%b8%94/







Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้