"สมาร์ทโฟนซินโดรม" ภัยสุขภาพของคนติดจอ

Last updated: 30 ก.ย. 2567  |  14 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"สมาร์ทโฟนซินโดรม" ภัยสุขภาพของคนติดจอ

สมาร์ทโฟนซินโดรม (Smartphone Syndrome) คือภาวะที่เกิดจากการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน ๆ จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งในปัจจุบันมีการพบภาวะนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้คนใช้สมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง

อาการของสมาร์ทโฟนซินโดรม ได้แก่:

  • อาการปวดตา: การจ้องหน้าจอนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง หรืออาการปวดตาได้
  • อาการปวดคอและหลัง: ท่าทางการก้มมองโทรศัพท์เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความตึงเครียดที่คอ บ่า และหลัง ซึ่งนำไปสู่อาการปวดกล้ามเนื้อ
  • การนอนหลับผิดปกติ: แสงสีฟ้าจากหน้าจอสมาร์ทโฟนอาจรบกวนการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ
  • อาการวิตกกังวลและเครียด: การใช้สื่อสังคมออนไลน์และการติดตามข่าวสารตลอดเวลา อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียด
  • การเสพติดโทรศัพท์: บางคนอาจเกิดภาวะเสพติดการใช้งานสมาร์ทโฟนจนไม่สามารถห่างจากโทรศัพท์ได้

การป้องกันสมาร์ทโฟนซินโดรมสามารถทำได้โดย:

  • จำกัดเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนในแต่ละวัน
  • พักสายตาและเปลี่ยนท่าทางทุก ๆ 20 นาที
  • หลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนก่อนนอน
  • ปรับการใช้งานให้สมดุลกับการใช้ชีวิตจริง

เคล็ดลับการดูแล

ควรป้องกันไม่ให้เกิดอาการพวกนี้โดยการใช้สมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี ไม่ควรก้มมาก การใช้แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1-1.30 ชั่วโมง ขณะใช้แทนที่จะต้องถือตลอดเวลา อาจใช้ขาตั้งแทน และแทนที่จะใช้นิ้วโป้งตลอดเวลา อาจเปลี่ยนเป็นนิ้วชี้จิ้มบ้าง หรือควรวางบนโต๊ะแล้วใช้นิ้วอื่น ๆ ก็จะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหรือเอ็นอักเสบได้

บริหารส่วนไหนดี?

กล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ บ่า หัวไหล่ โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อรอบต้นคอ คือ การก้มคอไปข้างหน้า สูดลมหายใจ นับ 1-10 เอียงไปทางด้านซ้ายและขวา นับ 1-10 และแหงนมองไปข้างหลัง นับ 1-10 อย่างช้า ๆ ให้มีการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบต้นคอ นอกจากนี้ ถ้าเกิดแถวบ่ามีอาการตึงมาก ก็ใช้มือฝั่งตรงข้ามมายืดกล้ามเนื้อบ่าให้คลายตัว ในส่วนของแขนเราก็สามารถยืดกล้ามเนื้อแขนได้ โดยที่เราเหยียดแขนออกไปให้ตรง และใช้มือดันข้อมือ นับ 1-10 และการกระดกนิ้วขึ้นเพื่อเป็นการบริหารนิ้ว ส่วนมือก็จะเป็นการงอเหยียดนิ้วมือ จะช่วยให้คลายกล้ามเนื้อที่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากนี้ถ้าเราออกกำลังกายแล้ว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว รายที่มีอาการมากก็ต้องมาพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู อาจจะต้องใช้ยาหรือวิธีการทำกายภาพ รวมทั้งสอนวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง


ที่มา : สภากาชาดไทย


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้